โฆษกสำนักนายกฯ เผย ประยุทธ์ เข้าประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ในวันที่ 18 มี.ค นี้ เตรียมหารือผ่อนมาตรการ เพื่อให้ประชาชนในชีวิตได้ตามปกติ นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันศุกร์ที่ 18 มีนาคมนี้
โดยคาดว่า กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการเสนอปรับมาตรการต่างๆ
ทั้งการควบคุม เฝ้าระวัง และป้องกันโควิด-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด รวมทั้งอาจมีการพิจารณาคลายล็อกกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเดินหน้าใช้ชีวิตได้อย่างปกติ นายธนกร กล่าวว่า ในขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแผน เปลี่ยนจากการระบาด (Pandemic) เป็นระยะเข้าสู่โรคประจำถิ่น (Endemic approach) โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ (4 เดือน) หรือเรียกว่า 3 บวก 1 ดังนี้ ระยะที่ 1 (12 มีนาคม-ต้นเมษายน 2565) เรียกว่า Combatting เป็นระยะต่อสู้ ต้องกดตัวเลขผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงกว่านี้ เพื่อลดการระบาด ลดความรุนแรงลง
โดยจะมีมาตรการต่างๆ ออกไป ระยะที่ 2 (เมษายน-พฤษภาคม 2565) เรียกว่า Plateau คือ การคงระดับผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงขึ้น ให้เป็นระนาบจนลดลงเรื่อย ระยะที่ 3 (ปลาย พฤษภาคม-30 มิถุนายน 2565) เรียกว่า Declining คือ การลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงให้เหลือ 1,000 – 2,000 ราย และระยะ 4 (บวก 1) ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป เรียกว่า Post pandemic คือ ออกจากโรคระบาดเข้าสู่โรคประจำถิ่น สิ่งที่เราจะทำคือ การปรับเป้าหมาย โดยไม่จำเป็นต้องกำหนดเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อ เนื่องจากสถานการณ์ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ยังเน้นเป้าหมายการฉีดวัคซีนป้องให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อปรับอัตราเสียชีวิตให้ลดลงและเน้นการรักษาในกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด ใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่าที่จำเป็น เพราะราคาน้ำมันสูงขึ้นทุกวัน ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก ที่มีผลกระทบกับประเทศไทยและทั่วโลก”
หลายท่านได้ให้กำลังใจ ขอให้อย่าท้อใจและขอให้สู้ต่อในหนทางการเมืองต่อไป อยากเรียนกับทุกท่านว่าถึงแม้จะแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้แต่จิตใจของผมยังเต็มที่ 100% เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงครับ… ยังไงลุยต่อแน่นอนครับ ฝากเป็นกำลังใจให้ผมต่อไปด้วยนะครับ ถ้ามีโอกาสคงได้ตอบแทนทุกคนนะครับ ถ้ามีสิ่งไหนที่ผมสามารถช่วยเหลืออะไรได้อย่าเกรงใจครับ ยินดีช่วยทุกคนอย่างสุดกำลังครับ
ประวัติ ยุน ซอกยอล จากทนายความ สู่ ประธานาธิบดี เกาหลีใต้
วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ ประวัติ ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีคนล่าสุด ที่คว้าคะแนนเอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างฉิวเฉียด ขึ้นสู่ผู้ปกครองประเทศ คนที่ 20 ของแดนกิมจิ จนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสทางการเมือง ที่คุกรุ่นและเป็นที่พูดถึงไปอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว โดยเขามีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจยังไงบ้าง ไปชมพร้อมกันเลย
ยุน ซอกยอล อายุ 61 ปี เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1960 เป็นลูกชายของอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้มีครอบครัวฐานะดี โดยตัวเขาได้จบจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ซึ่งเป็นมหาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งหลังจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ ยุน ซอกยอล ได้เข้ารับราชการ เป็นอัยการเมื่องช่วงปี 1994 ก่อนจะห่างหายไปทำหน้าที่ทนายความอยู่ระยะหนึ่ง แต่เมื่อกลับมาทำงานในสำนักงานอัยการอีกครั้ง เขาก็ได้สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงมากมาย จนเป็นที่รู้จักดีทั้งในวงการทนาย อัยการ ธุรกิจ และนักการเมือง เนื่องจากเขาได้มีบทบาทเด่น ในการตรวจสอบเหล่านักการเมือง และนักธุรกิจชื่อดังหลายคน
ผลงานเด่น ของ ยุน ซอกยอล เห็นทีจะไม่พูดถึงเรื่องการตรวจสอบนักการเมืองคงไม่ได้ เพราะเขาได้ชื่อว่าเป็นเหยี่ยวของวงการอัยการเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นที่พูดถึงกันในแง่ของผู้ตรวจสอบ ที่จะกัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้รู้ความจริง ซึ่งผลงานเด่นของเขา เป็นที่พูดถึงมากที่สุด ในฐานะผู้นำทีมสอบสวนชุดพิเศษ ที่ได้ทำการตรวจสอบหน่วยข่าวกรองเกาหลี เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่เอื้อประโยชน์ให้ อดีตประธานาธิบดีหญิง ปาร์ค กึน เฮ และคนสนิท จนทำให้เธอต้องก้าวลงจากตำแหน่ง เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก
นอกจากนี้แล้ว เขายังเคยทำให้อดีตประธานาธิบดีลี เมียง บัก ต้องถูกตัดสินจำคุกถึง 17 ปี จากคดีการรับสินบนด้วยนะ บอกเลยว่า ยุน ซอกยอล คนนี้ ไม่ว่าจะตรวจสอบอะไรก็ไม่เคยพลาด แถมยังทำให้ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ ต้องลงจากเก้าอี้ไปแล้วถึง 2 คน
ทั้งนี้ เขายังเคยถูกเลือกขึ้นมาทำหน้าที่เป็น อัยการสูงสุดของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2019 ด้วยนะ แต่หลังจากทำงานได้เพียงแค่ 2 ปี เขาก็ตัดสินใจลาออก เพื่อมาชิงตำแหน่งทางการเมือง ในฐานะประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จนคว้าชัยชนะมาได้ในที่สุด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเรื่องราวของ ประวัติยุน ซอกยอล ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งประเด็นทางการเมือง ที่เราทุกคนต่างต้องร่วมกันจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะดูเหมือนทิศทางการเมือง และกระแสสังคมของชาวเกาหลีใต้ในตอนนี้ ต่างพากันเสียงแตก และมีความคิดเห็นที่หลากหลายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป